Mindblown: a blog about philosophy.
-
หา keyword google มีวิธีการอย่่างไร
การหา keyword จาก Google โดยการใช้ Google planner เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ คีย์เวิร์ดที่คุณสามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย คุณสามารถวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ใช้ลง Google ADS หรือว่าการทำ SEO ได้จากเครื่องมือนี้ คุณสามารถเข้าถึงเครื่องมือนี้โดยการเข้าไปที่เว็บไซต์ https://ads.google.com/ จากนั้น ถ้าคุณมีบัญชีให้คลิก ลงชื่อเข้าบัญชีแต่ถ้ายังไม่มีบัญชีให้คุณสมัครก่อน ถ้าสมัครเสร็จแล้วให้คุณ ล็อกอินเข้าเว็บไซต์ คุณจะเห็น เมนูด้านข้างเลือกเมนูทูน ตามด้วย planning keyword planner ต่อไปจะมี ปุ่ม Discovery New keyword กับ get search Volume and for cash ให้เลือก Discovery New keyword สามารถเลือกได้ 2 วิธี โดยการเพิ่มคีย์เวิร์ด ที่คุณต้องการหา ลงไปสามารถเลือกได้สูงสุด 10 คำ เลือกภาษา และ…
-
E-E-A-T Factor มีความสำคัญอย่างไร
E-E-A-T Factor หมายถึง ความเชี่ยวชาญความน่าเชื่อถือ E-E-A-T เป็น algorithm ของ Google ที่ช่วยให้เว็บไซต์มีการติดอันดับบน Google โดย google ยึดหลัก EAT เป็นหลักในการให้เกณฑ์ แต่ละเว็บไซต์ ลิ้งเอกสารของ google จุดประสงค์ของ E-A-T Factor มีการทำงานอย่างไร Experience ประสบการณ์ในการเขียนบทความเนื้อหานั้นๆคุณมีประสบการณ์มากน้อยแค่่ไหน Expertise หมายถึง ความชำนาญ expert ในด้านด้านหนึ่งมีความละ มีทักษะระดับสูง ในด้านด้านหนึ่ง อาจจะต้องมีคุณสมบัติ หรือการศึกษาของผู้เขียนบทความ เพื่อ ให้ Google มองว่า เป็น expert ในด้านด้านนั้น Authoritativeness เป็นเกี่ยวกับ ชื่อเสียง อิทธิพล ในอุตสาหกรรมนั้นๆ หรือในเว็บไซต์บุคคลนั้นๆ ใช้เป็นตัวอ้างอิงว่า ผู้เวชาญมี ชื่อเสียงมีอิทธิพลอย่างไร 3 Trustworthiness ความน่าเชื่อถือ ถ้าคุณ เป็นผู้เชี่ยวชาญและมี…
-
วิธีการเขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับ Google
บทความ SEO คืออะไร บทความ SEO คือบทความที่ช่วยให้ Google หรือ search Engine มีความเข้าใจในบทความนั้นและจัดระเบียบได้อย่างถูกต้อง เป็นบทความที่เนื้อหา ไม่ซ้ำกับบทความอื่น หรือไม่ duplicate กับบทความอื่น ทำไมเราถึงต้องเขียนบทความ SEO 1 เพื่อให้ Google มีการเก็บ ดัชนีเว็บไซต์ของเราได้อย่างเป็นระบบระเบียบ ให้ Google เข้าใจในเว็บไซต์ของเราและ จัดอันดับให้เราติดการค้นหา 2 เนื้อหาที่เป็นประโยชน์มีผลต่อลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายของคุณช่วยให้กลุ่มเป้าหมายของคุณสนใจเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น 3 ช่วยเรื่อง SEO on Page ของคุณให้ดียิ่งขึ้นเนื่องจากมีบทความสดใหม่ใส่เข้าไปในเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ โดยการเขียนบทความและปรับบทความเก่าให้มีความเหมาะสม Google จะตรวจจับ บทความที่คุณเขียนเรื่องความเหมาะสมและเป็นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน บทความ seo มีการเขียนอย่างไร คุณควรเริ่มจากการ Research keyword ที่คุณต้องการที่จะเขียนโดยคีย์เวิร์ดที่จะเขียน จะต้องไม่มีคำค้นหาน้อยเกินไป คำค้นหาควรจะเป็น จำนวนที่พอเหมาะ ถ้ามากเกินไปก็อาจจะคู่แข่งเยอะเราควรจะดูคู่แข่งในเว็บไซต์ด้วยว่าคีย์เวิร์ดที่คุณเขียนมันมี คู่แข่งเยอะหรือไม่ คุณอาจจะหา keyword google…
-
ทำไมเราจะต้องมีเว็บไซต์
พฤติกรรมของมนุษย์หลายๆคน ใช้เวลาอยู่กับอินเตอร์เน็ตอยู่กับคอมพิวเตอร์ มากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆจากแต่ก่อน ที่เริ่มจากมีคอมพิวเตอร์มีอินเตอร์เน็ตที่ความเร็วไม่แรงมาก และพัฒนาจนความเร็วแรงขึ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแก้อาการเวลาผ่านไปทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ง่ายขึ้นในราคาที่ไม่แพง มีหลายคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล อ่านข่าวสาร แทนที่จะอ่านจากหนังสือพิมพ์แต่ก่อน ก็มาอ่านในเว็บไซต์มากขึ้น การมีเว็บไซต์ เป็นของตนเองดีอย่างไร เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือของเรา ไม่ว่าเราจะเป็นบริษัทหรือไม่เป็นบริษัทมีห้างร้าน หรือเป็นบุคคลสาธารณะ การมีเว็บไซต์เป็นเหมือน หน้าต่าง ที่เปิดให้ลูกค้าให้คนที่เข้าถึง มาอ่านข้อมูลของเราในเว็บไซต์ และ และเป็นผู้ติดตามในเว็บของเรา ถือว่าเป็นหลักฐานทางสังคม สร้างความน่าเชื่อถือให้กับคนที่ มีเว็บไซต์และทำออกมาดีได้อย่างแน่นอน การมีเว็บไซต์ เป็นการลดต้นทุนค่าดำเนินงานบางอย่างลง อย่างเช่นที่ว่า ในยุคก่อนที่ไม่มีเว็บไซต์อาจจะเข้าถึงผู้คนได้ยาก บนโลกออนไลน์ แต่การมีเว็บไซต์ทำให้ หลายๆคนมาเห็นในเว็บของคุณ แม้ว่าเขาจะอยู่ในอีกซีกโลกหนึ่งเขาก็สามารถมาเห็นเว็บไซต์ของคุณได้โดยง่ายเป็นการประหยัดเวลาและเข้าถึงบุคคลลดต้นทุนได้ดี เป็นบริการทางการตลาดที่ช่วยให้ลูกค้า ออนไลน์ของคุณเข้าถึงมาจัดการ ในเว็บของคุณไม่ว่าคุณจะขายสินค้าหรือว่าขายบริการหรือให้ข้อมูลต่างๆ เขาจะมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บของคุณถ้าคุณทำเว็บไซต์ของคุณออกมาดี เป็นการอัพเดทประกาศต่างๆคุณสามารถอัพเดทได้ตลอดเวลา ตลอด 24 ชั่วโมงวันไหนก็ได้หรือว่าตั้งเวลาก็ได้ เป็นการโพสต์อัพเดทเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงมองเห็น ได้โดยง่าย เพื่อได้รับข้อมูลสำคัญที่คุณต้องการส่งต่อให้ลูกค้าของคุณ การมีเว็บไซต์เป็นการ เริ่มต้น ของการโฆษณาออนไลน์ โดยการ อัพเดทเว็บไซต์ ไปเรื่อยๆ ก็ จะทำให้ส่งผลให้ติดอันดับ seo คนเข้ามา search…
-
การปรับแต่งรูปภาพ SEO
การปรับแต่งรูปภาพ seo Image optimization เป็นการ เพิ่มคุณภาพของรูปภาพของคุณเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพของคุณบนเว็บไซต์ ให้อยู่ใน รูปแบบที่เหมาะสมที่ดีที่สุด เหมาะแก่ ผู้ใช้งาน และ Google มีวิธีการอย่างไร คือ การปรับขนาดรูปภาพของคุณ ควรใช้รูปภาพที่พอเหมาะแก่เว็บของคุณ ไม่ควรใช้รูปภาพที่ใหญ่ และกินพื้นที่มาก เราควรเลือกนามสกุลให้เหมาะสมแก่การใช้งานด้วย รูปแบบที่ดีที่สุดที่แนะนำก็คือ jpeg สำหรับรูปภาพที่มีสีสัน ควรเลือกการบีบอัด การลด ขนาดของรูปภาพ ขนาดไฟล์ ให้เล็กลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์เครื่องมือที่จะใช้ รถขนาดไฟล์มีหลากหลาย มาก ทั้งเว็บ ให้บริการ ต่างๆ เราควรตั้งชื่อไฟล์รูปภาพ alt ให้ ตรงตาม ภาพหรือเหมาะสม ที่เกี่ยวข้องกับ ภาพของคุณเพื่อ seo ควรเป็นชื่อที่มีความเข้าใจ และมีคนค้นหา การเว้นวรรคควรจะใช้ขีดกลาง ไม่ควรใช้ขีดล่างเพราะว่า Google จะไม่เข้าใจ ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรจะใช้รูปภาพซ้ำกับคนอื่น จะมีผลต่อ seo เป็นอย่างมาก ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้รูปที่คนเคยใช้คุณอาจจะต้องนำมาปรับแต่ง หรือใส่ข้อความอะไรลงไปใน รูปภาพเพื่อให้มันดูแตกต่างมากขึ้น ในปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่…
-
Meta Description คืออะไร
Meta Description คืออะไร Meta Description เป็นองค์ประกอบของ html ที่เป็นสรุปเนื้อหา บนหน้าเว็บไซต์ของเรา โดยจะแสดงผล บนเครื่องมือค้นหา search engine Google เป็นคำอธิบาย ต่อจาก Page Title (Page Title คือ หัวข้อเรื่องของเรา )เป็นส่วนสำคัญของ SEO อาจจะไม่ใช่เป็นการจัดอันดับโดยตรงแต่มีความสำคัญ เป็นประโยคที่บอกในหน้าเว็บนั้น และเป็นการโน้มน้ นในการคลิกลิงค์นี้ เพื่อเพิ่มอัตราการคิด ctr และการรับรู้ของแบรนด์ของคุณเป็นเป้าหมายหลักที่และ SEO ส่วนใหญ่เป็นคนทำ ซึ่งเวลาเราค้นหาคีย์เวิร์ดใดใน Google ถ้าคีย์เวิร์ดนั้นมีอยู่ใน Description จะทำให้คีย์เวิร์ดนั้นเป็นตัวหนา ขึ้นมาจากข้อความค้นหา คุณควรตั้งค่า Meta Description ทุกหน้าหรือไม่ คือเราควรจะตั้งหน้า Meta description ทุกหน้า เพื่อปลดรอบข้าง seo ควรจะอธิบาย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้านั้นๆ หลักการเขียนเมต้าติกฟิวชั่นที่ดีก็คือ มี ตัวอักษรไม่เกิน 105 ตัวอักษร จำนวนตัวอักษรข้อความขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน…
-
การเขียนบทความ SEO
การเขียนบทความ SEO ต้องทำอย่างไร SEO เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเขียนออนไลน์สามารถสร้างเนื้อหา ที่น่าสนใจและ มีผู้ชมเข้ามาเห็น ได้ SEO จึงสำคัญ สำหรับนักเขียน นักเขียนควรมั่นใจว่าเนื้อหาที่เขาเขียนเป็นสิ่งสำคัญ การมีส่วนร่วมที่ดี ช่วยให้ผู้ชมสนใจ บทความของคุณเนื้อหา ที่กลั่นกรองมาเป็นอย่างดี ทำให้ ผู้ชมและผู้อ่านอยู่ในเว็บของคุณมากยิ่งขึ้นได้นานยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มชื่อเสียงของแบรนด์ของคุณ ให้ ดียิ่งขึ้น ได้รับความไว้วางใจจากผู้อ่าน และช่วยให้ผู้ชมเว็บไซต์ของคุณเข้ามาบ่อยขึ้นหรือตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการจากคุณได้ง่ายขึ้น คำแนะนำเกี่ยวกับการเขียนบทความลงเว็บไซต์ เริ่มจาก นักเขียนจะต้องเป็นนักอ่านที่ดีและอ่านได้มากที่สุด เขียนในสิ่งที่คุณรักคุณชอบ คุณหลงใหล ความหลงใหลคลั่งไคล้ของคุณในเรื่องนั้นๆจะทำให้ บทความของคุณดูน่าสนใจ ผ่านตัวอักษร ของคุณที่พิมพ์เข้ามา เขียนให้ทุกวันมีความสม่ำเสมอในการเขียน ถึงแม้ว่าจะเขียนเป็นระยะเวลาสั้นๆเพียง 10-20 นาทีต่อวันแต่มันก็ช่วยให้ เป็นการฝึกฝนฝีมือของคุณช่วยเพิ่มทักษะความมั่นใจของคุณทำให้คุณเป็นนักเขียนที่ดีได้ดียิ่งขึ้น เปิดรับคำวิจารณ์ของคุณจาก ผู้อ่านเพื่อร่วมงานหรือบรรยายการของคุณ คำวิจารณ์จะเป็น ข้อที่ มีคุณค่าสำหรับคุณทำให้คุณรู้ข้อบกพร่องในงานเขียนของคุณและคุณก็จะสามารถปรับปรุงงานได้ดีขึ้นคนไม่ควรท้อแท้หรือดาวน์กับคำเชิงลบคำวิจารณ์ของคุณ คือมันเป็นสิ่งที่ดีที่มีคนวิจารณ์ งานของคุณถ้าไม่มีคนวิจารณ์งานของคุณคุณจะไม่รู้ข้อบกพร่อง การเขียนจำเป็นจะต้องเขียนในสิ่งที่คุณรู้นะคุณมีประสบการณ์กับมัน มันจะออกมา เป็นตัวอักษรที่ดี
-
การทำบทความ seo มันไม่มีทางลัด
การทำบทความ seo มันไม่มีทางลัด คือต้องพยายามทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพ เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน บางคนพยายามแสวงหา ทางลัด แต่ก็ไม่เป็นผลดีเพราะว่า บางคนอาจจะใช้ AI ในการช่วยทำงาน generate ข้อความ บทความ ซึ่ง AI มันสามารถทำได้เร็วกว่ามนุษย์ แต่ในปัจจุบัน AI ก็ยังมีข้อผิดพลาดอยู่มาก ซึ่งการเขียนบทความด้วย AI 100% อาจจะไม่ได้เป็นผลดีต่อ seo แต่ถ้าเราเอาบทความที่ AI เขียน มา แปลงเป็นภาษาคำพูดก็ จะเป็นผลดีต่อ seo ได้เช่นกัน
-
การตรวจสอบอันดับ Google เว็บไซต์ของคุณ
การตรวจสอบอันดับ Google เว็บไซต์ของคุณ ในยุคดิจิทัส ตัวตนบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญ การทำความเข้าใจตำแหน่งเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหาของ Google ถือเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการนักทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จ การติดตามอันดับ Google ของเว็บไซต์ เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ และ ยังช่วยให้มีความรู้ว่าเราขาดตกบกพร่องอะไรที่จำเป็นในการปรับปรุงการมองเห็นเว็บไซต์ของเรา ทางออนไลน์อีกด้วย บทความนี้จะเจาะลึกวิธีการและเครื่องมือต่างๆ ที่คุณสามารถใช้ติดตามอันดับเว็บไซต์ของคุณบน Google ได้ โดยนำเสนอแผนการการตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ Google Search Console: ทรงพลังมากๆ ในการใช้เครื่องมือนี้วิเคราะห์ Google Search Console SEO โดดเด่นในฐานะเครื่องมืออันดับต้นๆ ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายจาก Google โดยให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับสถานะของเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา การยืนยันความเป็นเจ้าของไซต์ของคุณ ดูการเข้าถึงข้อมูลสำคัญ รวมถึงการจัดอันดับคำหลัก อัตราการคลิกผ่าน (CTR) และการแสดงผล รายงานประสิทธิภาพต่างๆ โดยช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มในช่วงเวลาต่างๆ และบอกถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุงได้ ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือติดตามอันดับตามเว็บต่างๆ เครื่องมือในการตรวจสอบอันดับ มีมากมายนำเสนอข้อมูลเชิงลึกสำหรับการตรวจสอบอันดับเว็บไซต์ของคุณบน Google แพลตฟอร์มเหล่านี้มาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ เช่น การติดตามอันดับรายวัน การวิเคราะห์การแข่งขัน และรายงานที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ…
-
การวิเคราะห์คู่แข่ง SEO
การวิเคราะห์คู่แข่ง SEO ถือเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับแทบทุกธุรกิจ ที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพการมองเห็นและประสิทธิภาพทางออนไลน์ ด้วยการทำความเข้าใจกลยุทธ์ จุดแข็ง และจุดอ่อนของคู่แข่ง คุณจะได้รับข้อมูลคู่แข่ง ที่จะช่วยคุณปรับแต่ง SEO ของคุณเพื่อให้ชนะคู่แข่งได้ และมีการจัดอันดับในตำแหน่งที่ดีขึ้นในการจัดอันดับของgoogle บทความนี้รวมข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งต่างๆ เพื่อแนะนำกระบวนการวิเคราะห์คู่แข่ง SEO อย่างละเอียด ขั้นตอนที่ 1: ระบุคู่แข่ง SEO ของคุณ ใครคือคู่แข่ง ขั้นตอนแรกในการวิเคราะห์คู่แข่ง SEO คือการระบุว่าคู่แข่งของคุณคือใคร สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าคู่แข่งออนไลน์ของคุณอาจแตกต่างจากคู่แข่งออฟไลน์ของคุณ หากต้องการค้นหา ให้เริ่มต้นด้วยการค้นหาคำหลักหลักของคุณใน google และสังเกตว่าเว็บไซต์ใดมีอันดับสูง อาจจะใช้เครื่องมือเช่น SEMrush หรือ Ahrefs ยังสามารถช่วยคุณระบุคู่แข่งโดยพิจารณาจากคำสำคัญที่ใช้ร่วมกันและตำแหน่งการจัดอันดับบน google ขั้นตอนที่ 2: วิเคราะห์โครงสร้างเว็บไซต์ของคู่แข่ง หลังจากระบุคู่แข่งของคุณแล้ว ให้ตรวจสอบโครงสร้างเว็บไซต์ของพวกเขา เว็บไซต์ที่มีการจัดระเบียบโครงสร้้างอย่างดีพร้อมลำดับชั้นที่ชัดเจน ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณที่ดี แต่ยังทำให้ google สามารถในการรวบรวมข้อมูลอีกด้วย ให้ความสนใจกับวิธีการจัดระเบียบเนื้อหา การตั้งหมวดหมู่ที่เป็นระเบียบ และวิธีจัดโครงสร้าง URL ขั้นตอนที่ 3: ประเมินความสามารถในการทำ SEO…
Got any book recommendations?